[Review] Nokia Lumia 1020

หลังจากที่โนเกียประเทศไทยได้วางขาย Lumia 1020 อย่างเป็นทางการนั้น หลายๆคนก็อยากทราบว่า Nokia Lumia 1020 ตัวนี้ ดีหรือไม่? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร? กล้องเทพสมกับ 41ล้านพิกเซลหรือไม่? เชิญชมรีวิวฉบับ ThaiLiveTile ได้เลยครับผม 😉

ประทับใจแรกที่ได้สัมผัส

หลังจากแกะกล่องเจ้าตัวนี้ออกมา สัมผัสแรกที่ได้จับตัวเครื่องคือรู้สึกว่า “เบากว่าที่คิด” ซึ่งเมื่อเทียบความรู้สึกกับตอนจับเครื่อง Lumia 920 นั้นเจ้าตัว Lumia 1020 นี้ยังรู้สึกว่าเบากว่าครับ

วัสดุตัวเครื่องโดยรวมทำออกได้ดีสมราคา เป็นโพลีคาร์บอเนต คงทนแข็งแรง กระจกจอก็กันรอยขูดขีดต่างๆได้ดี ( Corning Gorilla Glass 3 ) หน้าจอคมชัดและดูสดใสมากๆครับ

ตัวเครื่องด้านซ้ายมือเราจะไม่มีปุ่มใดๆ ส่วนด้านขวาจะมี ปุ่มลด/เพิ่มเสียง, ปุ่มเปิด/ปิดหน้าจอ และ ปุ่มถ่ายรูปครับ

ด้านหลังจะเห็นเป็นรูปเลนส์กลมๆสีดำชัดเจน มีซีนอนแฟลช แสงสำหรับบันทึกวิดีโอ และตัวกล้องหลักครับ

โดยรวมแล้วถือว่าประทับใจมากกว่าที่คาดหวังไว้ โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนัก และขนาดของตัวเครื่องที่สามารถพกพาได้สะดวกครับ

ของแถม

เนื่องจากผมได้สั่งจองล่วงหน้าที่มีโปรโมชั่นแถม Nokia Camera Grip (PD-95G) อุปกรณ์เสริมสำหรับประกอบกับ Nokia Lumia 1020 ให้เราสามารถจับเครื่องถ่ายภาพได้ถนัดเหมือนกล้องดิจิตอล พร้อมยังเป็น Power Bank ขนาด 1,020 mAh และมีรูสำหรับต่อขาตั้งกล้องได้ มูลค่า 2,490 บาทครับ

การใช้งานเบื้องต้นในชีวิตประจำวัน

วันแรกๆตอนเริ่มต้นใช้งานนั้น อาจจะต้องหาอินเตอร์เน็ตแรงๆซะหน่อยในการเชื่อมต่อข้อมูล/บริการต่างๆของเราเข้ามาในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น อีเมล, รายชื่อ, อัพเดทแอพพลิเคชั่น, Social Media ต่างๆ ให้พร้อมใช้งานครับ ซึ่งตรงนี้จะใช้เวลาสักพักเพื่อ sync ข้อมูลทุกอย่างมาที่โทรศัพท์ของเราครับ (แนะนำให้ใช้ Wi-Fi ) เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็จะได้หน้าตาพร้อมใช้งานกันแล้ว 😉

แอพพลิเคชั่น ME

แอพ ME จะรวมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเรา  หน้าแรกเราจะสามารถโพสข้อความ/สเตตัสไปยัง Social Network ที่เราได้ sync ไว้ได้ หน้าถัดไปจะเป็นศูนย์รวม Notification ของ Social Network เราทั้งหมดที่ได้ Sync ไว้ (ย้ำว่ารวม Notification ของ Social เราทั้งหมด เช่น มีใคร Mention มาจากทวิตเตอร์ หรือมีใครมากดไลค์สเตตัสจากเฟสบุ๊ค มาอยู่ด้วยกันหมด) และจะแจ้งเตือนที่หน้า Home (ที่เป็น Live Tiles) ด้วยความเรียบง่ายและสวยงามตลอดเวลา ส่วนหน้าถัดไปอื่นๆ จะไม่ค่อยได้ใช้เท่าไรครับ

แอพพลิเคชั่น People

แอพ People จะนำเพื่อนใน Social Network และรายชื่อโทรศัพท์ของเราจะมาอยู่ในที่เดียวกันหมด รวมถึงเราสามารถดู Social network แบบเป็น Timeline ของรายชื่อคนนั้นๆผ่านแอพนี้ได้เลยครับ (โดยส่วนตัวผมชอบฟีเจอร์นี้มากๆครับ สะดวกดี)

จุดเด่นประจำตัว

แน่นอนว่าจุดเด่นของเครื่องนี้เป็น กล้อง นั่นเองครับ ผมขอไม่อธิบายรายละเอียดเชิงลึกมากมายครับ เพราะเราสามารถตามอ่านได้ทั่วไปอยู่แล้ว ผมขอเน้นไปที่การใช้งานจริงเลยดีกว่า 😉 กล้องความละเอียดสูง 41 ล้านพิกเซล พร้อม Dual capture เลือกเก็บภาพถ่ายได้ 2 ขนาด แบบ Full resolution 34-38 ล้านพิกเซล (ที่ไม่ใช่ 41 ล้านพิกเซลเพราะภาพถ่ายเราเป็นสี่เหลี่ยม แต่เลนส์กล้องเป็นวงกลม 41 ล้านพิกเซล) และภาพขนาดย่อ 5 ล้านพิกเซลครับ หลังจากใช้งานกล้องอยู่หลายชั่วโมง ก็พบว่า มันสามารถปรับแต่งได้เยี่ยมยอดจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Speed shutter, ISO, Manual Focus, exposure และ  white balance  ได้ราวกับกล้องโปรครับ ได้ภาพที่มีความละเอียดสูง ถ่ายภาพได้ดีในที่แสงน้อย และ Bokeh ละลายฉากหลังได้ดี

ด้วยความที่มันมีความละเอียดสูง ทำให้เราสามารถซูมรูปที่ถ่ายได้ถึง 3 เท่า โดยภาพยังคมชัดอยู่ครับ (ตรงนี้ทึ่งจริงๆ เพราะชัดจริงครับ)

ภาพจากกล้อง Lumia 1020 ที่ซูมแล้วยังชัดอยู่

ลองพาไปเที่ยวสักหน่อย

ภาพทั้งหมดต่อไปนี้เป็นภาพจากกล้อง Lumia 1020 โดยย่อขนาดอย่างเดียว ไม่ได้ปรับแต่งอย่างอื่นเพิ่มเติม เริ่มด้วยตอนเช้านั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปจตุจักรกันครับ พอไปถึงปุ๊ป ฝนดันตกซะงั้น เปลี่ยนแพลนมาที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว

พร้อมนัดสาวมาเดินเป็นเพื่อนหน่อย : D

เดินๆดู ตุ๊กตากัน

ซูมภาพจากด้านบน เห็นราคากันเลยทีเดียว

เอาวัตถุมาใกล้ๆกล้อง ทำให้วัตถุด้านหลังเบลออัตโนมัติเลย

ลองแต่งรูปเล่นสักรูปนึงละกันครับ 😀

เดินเหนื่อยแล้วก็มานั่งพักกินข้าวกัน

รู้หรือไม่ ?

Windows Phone สามารถส่งรูปผ่าน Bluetooth หา Android ได้ด้วยล่ะ ! พอสั่งอาหารแล้ว ระหว่างรอก็มาส่งรูปที่ถ่ายวันนี้ให้เธอหน่อย (เธอคนนี้ใช้ Galaxy Note II ) กด share แล้วก็เลือก Bluetooth ครับ

เจอแล้ว ทาง Note II ก็กดรับเลย

ตอนส่ง ก็จะมีข้อความ Process บอกว่า ส่งเสร็จไปกี่ % แล้ว

แล้วแอนดรอยด์ยี่ห้ออื่นทำได้มั้ย?

ได้เช่นกันครับ อ่านเพิ่มเติม

ระหว่างส่งไฟล์รูปของวันนี้ที่ถ่ายไปกัน อาหารก็พร้อมทานแล้ว

ถ่ายภาพสาวครั้งเดียว ได้ทั้งแบบธรรมดาและแบบ Closeup  😛

 

มัวแต่ถ่ายรูปเพลิน แบตก็เหลือน้อยครับ (นี่เพิ่งใช้ไป 4 ชั่วโมงเองนะ) ถึงเวลาต้องเอา Nokia Camera Grip มาช่วยซะหน่อย (ใส่ Grip เพิ่มตอนแบตฯเหลือ 15%)

จากนั้นก็ไปเที่ยวที่อื่นกัน

แวะไปวัดโพธิ์

เดินไปอีกนิดก็เจอ มิวเซียมสยาม

ขอแต่งรูปอีกสักรูป 😀

ภายในมิวเซียมมีส่วนที่มืดๆอยู่ ก็ได้เวลาทดสอบความเทพของกล้องแล้ว 😉 (ลองเทียบกับ Sony Xperia S)

ถ่ายโดย Xperia S
ถ่ายโดย Lumia 1020

 

ภายในมิวเซียมสยามมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะเลยครับ

หลังจากเดินชมอยู่ไม่นาน ปรากฏว่า แบตฯหมดซะแล้วครับ หมดเร็วกว่าที่คิด = =” รวมๆการใช้งานต่อเนื่องแบบถ่ายรูปไม่ยั้ง+เล่นเน็ตแชร์รูปเข้า Social ตลอด ก็อยู่ได้ประมาณ 6 ชั่วโมงครับ (รวมแบตฯจาก Grip แล้ว) จากนั้น ผมยังไปเที่ยว เอเชียทีคต่อ แต่น่าเสียดายที่แบตฯกล้องต้องหมดลงครับ ผมก็ดันไม่ได้พก Power bank เพิ่มมาซะด้วย เพราะงั้น นี่จึงเป็นข้อเสียมากๆครับ ที่กล้องดี -> เครื่องทำงานหนัก -> แบตฯหมดเร็ว

เอารูปลงคอมกัน

หลังจากเที่ยวมาอย่างจุใจ แต่มาเฟลตอนท้ายนิดหน่อยเรื่องแบตฯ ก็ได้เวลามาเชยชมภาพในคอมกันครับ เสียบมือถือเข้าคอมจะปรากฏรูป Windows Phone สวยงามแบบนี้

ไฟล์รูปเราจะมีสองประเภทครับ คือ แบบรูปธรรมดา ขนาด 5 ล้านพิกเซล และรูปคุณภาพสูงครับ โดยชื่อไฟล์ที่เป็นรูปคุณภาพสูงจะมีคำว่า “__highres” ต่อท้ายครับ

More Camera Review

ต่อไปเป็นการรีวิวกล้องเพิ่มเติมหลังจากที่ไปเที่ยว 1 วันนะครับ คราวนี้จะลองหลายๆเทคนิคของการถ่ายภาพดูว่าการถ่ายแต่ละแบบนั้นทำออกมาเป็นอย่างไรบ้างครับ

การถ่ายภาพระยะใกล้

เริ่มต้นที่รูปแรกกันเลยครับ ลองซูมแฟลชไดรฟ์วินโดว์โฟนหน่อย 😀 #ช่วงนี้ฝนตกบ่อย #แสงไม่ค่อยมี

ลองมาซูมในอาคารบ้าง (ในห้อง) พอมีแสงเพิ่มขึ้นหน่อย #ชัดถึงขั้นเห็นฝุ่นบนโน้ตบุ๊ค = =”

ต่อไปเป็นการซูม+ย้อนแสงครับ ถือว่า ทำออกมาดีทีเดียว

แทรกภาพย้อนแสงอย่างเดียวสักรูปละกันครับ จะเห็นว่าแสงจะแฉกออกมาเท่ๆนิดนึง

ลองมาซูมตอนกลางคืนบ้าง ตอนกลางคืนจะต้องปรับโฟกัสเองเพราะมัน auto ไม่โดนสักที แล้วก็เปิดแค่แฟลชโฟกัสเท่านั้น นอกนั้นตั้ง auto หมดครับ

การถ่ายภาพสีสัน

นึกไม่ออกว่าจะถ่ายแถวไหน ก็ไปร้านเครื่องเขียนละกันครับ สีสันเยอะดี 😀

เดินผ่านร้านข้างทาง รีบถ่ายไปหน่อย เบลอเลย -*-

การถ่ายภาพกลางคืน

แน่นอนว่าจุดเด่นอีกเรื่องของ Lumia 1020 คือสามารถตั้ง Speed shutter ได้ ก็มาลองกันครับ (ต้องขออภัยที่มืออาจนิ่งไม่พอ บางภาพเลยเบลอครับ) รูปแรกเป็นการตั้ง auto ทั้งหมดครับ

รูปนี้เป็นการตั้ง Speed shutter ที่ 0.5 วินาทีครับ

รูปนี้เป็นการตั้ง Speed shutter ที่ 1 วินาทีครับ

หลังจากรูปเมื่อกี้อีก 1 ชั่วโมง (แสงจะได้น้อยลง)

ลองถ่ายอย่างอื่นที่ไม่ใช่ถนนบ้างครับ 😀 รูปแรกใช้ Speed shutter 1/47 วินาที  + Flash ครับ (ถ้าไม่ใช้ Flash จะมืดสนิท)

รูปนี้ใช้ Speed shutter เร็วขึ้นอีก มาเป็น 1/400 วินาที  + Flash ครับ จะเห็นว่าภาพน้ำพุจะกระจายชัดกว่ารูปบนเพียงนิดเดียว แต่ฉากด้านหลังจะมืดมากกว่าเดิมเยอะครับ

ลองปรับ Speed shutter ช้าๆมาที่ 0.5 วินาที ก็ไม่ต้องใช้แฟลชครับ

สรุป

  • วัสดุดี ทนทาน
  • กล้องเทพ สมกับที่พัฒนาด้านกล้องมาอย่างต่อเนื่อง สามารถปรับค่าต่างๆของกล้องได้เหมือนกล้อง DSLR เบื้องต้นเลยทีเดียว
  • จากเรื่องกล้องเทพก็อาจจะเป็นข้อเสียที่จะต้องเสียเวลาปรับเพื่อให้ภาพออกมาสวยๆตามที่เราต้องการ
  • สามารถส่งไฟล์ต่างๆผ่าน Bluetooth กับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ได้
  • แบตเตอร์รี่หมดเร็วไปหน่อย แม้ว่าใช้ Nokia Camera Grip ด้วยแล้วก็ยังไม่เพียงพอสำหรับไปเที่ยวทั้งวันแบบถ่ายรัวๆ ต้องซื้อ Power Bank ติดตัวเพิ่ม
  • ถ้าใช้งานกล้องนานๆ ตัวเลนส์กล้องส่วนที่เป็นสีดำจะร้อนทันที (ร้อนง่ายมากๆ สงสัยประมวลผลหนัก)
  • พื้นที่ความจุที่ให้มีขนาดน้อยเกินไป เพราะอย่าลืมว่า เวลาเราถ่ายรูป 1 รูป มันจะเก็บไฟล์ภาพถึง 2 ภาพ ดังนั้นเวลาไปเที่ยวทริปไหนยาวๆ ต้องเคลียร์พื้นที่ในเครื่องให้พร้อม + พก Power Bank ด้วยนะจ้ะ
  • ราคาแพงเกินไป (ถ้าไม่ได้ Grip เป็นของแถม) เมื่อเทียบกับราคามือถือตัวท็อปในปัจจุบัน

ขอจบการรีวิวด้วยรูปภาพถ่ายกลางคืนของ Lumia 1020 + แอพ Camera360 บนวินโดว์โฟนครับผม 😉

ปล. สามารถอ่านเทคนิคการใช้งาน Windows Phone อื่นๆได้ที่ FAQ ครับ

Lumia 1020กล้องรีวิว
Comments (0)
Add Comment